เน็ตแอพ (NetApp) (NASDAQ: NTAP) เผยโฉม Data ONTAP® 8 พร้อมด้วยเทคโนโลยีและโซลูชั่นใหม่ๆ รองรับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบคลาวด์ (Cloud) สำหรับปัจจุบันและอนาคต โดยจะช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์และเปลี่ยนย้ายไปสู่การนำเสนอไอทีในรูปแบบของบริการ (IT delivered as a service (ITaaS)
“การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ในวันนี้นับเป็นการเปิดศักราชใหม่และพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจสำหรับเน็ตแอพ” มร.ทอม จอร์เจนส์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเน็ตแอพ กล่าว “ปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยเป็นผลมาจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ผู้บริหารในฝ่ายไอทีจำเป็นที่จะต้องหาหนทางในการทำงานให้ได้มากขึ้น แต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์จึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในขณะที่บริษัทต่างๆ เลือกที่จะใช้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่น โครงสร้างพื้นฐาน และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่นำเสนอในรูปแบบของบริการ และเน็ตแอพก็มีความพร้อมอย่างมากในการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมในด้านการจัดเก็บและการจัดการข้อมูลซึ่งเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับระบบคลาวด์ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ บริษัทยังทำหน้าที่เป็นพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีที่คอยให้คำแนะนำแก่องค์กรต่างๆ ในการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์”
ในปัจจุบัน ลูกค้าองค์กร ผู้ติดตั้งระบบ และผู้ให้บริการทั่วโลกใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Data ONTAP ที่มีอยู่ ซึ่งรองรับระบบคลาวด์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่วนแพลตฟอร์ม Data ONTAP 8 จะพัฒนาต่อยอดจากความสามารถทางด้านระบบคลาวด์ดังกล่าว พร้อมด้วยฟังก์ชั่นปรับปรุงสำหรับโครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลไลซ์ (Virtualized) และแบบใช้งานร่วมกัน (Shared) รวมถึงการเคลื่อนย้ายข้อมูลอย่างต่อเนื่อง การขยายระบบอย่างยืดหยุ่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบขยายออก (Scale-Out) และการจัดเก็บข้อมูล 64 บิต เพื่อรองรับข้อมูลหลายเพทาไบต์ นอกจากนี้ Data ONTAP 8 ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงการบริหารจัดการข้อมูล และผนวกรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับระบบดาต้าเซ็นเตอร์ ทำให้เลเยอร์สตอเรจ เซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย และแอพพลิเคชั่นทำงานร่วมกันอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์ม Data ONTAP 8 ผสานรวม Data ONTAP 7G และ Data ONTAP GX ไว้ภายใต้โค้ดเบสเดียวกัน โดยรองรับการติดตั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากระบบทั้งแบบ Scale Up และ Scale Out ด้วยการเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่แปลกใหม่และฟีเจอร์รุ่นปรับปรุง Data ONTAP 8 จึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการในเรื่องระบบคลาวด์ได้อย่างลงตัว ทั้งยังแก้ไขปัญหาท้าทายต่างๆ ในการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานสตอเรจบนระบบคลาวด์ เช่น:
- การใช้งานอย่างปลอดภัยโดยผู้ใช้หลายกลุ่ม—ลูกค้าจะสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและรองรับการใช้งานร่วมกันของผู้ใช้หรือลูกค้าหลายๆ กลุ่ม ด้วยเทคโนโลยี MultiStore® ของเน็ตแอพ
- การเคลื่อนย้ายข้อมูลอย่างโปร่งใส—ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องในระหว่างที่มีการปิดเครื่องหรืออัพเกรดระบบ ทั้งยังตอบสนองได้อย่างฉับไวและโปร่งใสภายในไซต์เดียวกัน หรือครอบคลุมการติดตั้งแบบกระจัดกระจายในหลายๆ ไซต์
- บริการอัตโนมัติ—ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากชุดเครื่องมือที่พร้อมสรรพสำหรับการจัดการและตรวจสอบข้อมูล เพื่อตรวจวัดระดับการใช้งานและรองรับรูปแบบการคิดค่าใช้จ่าย (Charge Back) ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมาก ทั้งยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนอง ของฝ่ายบริการอีกด้วย
- ประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล—ลูกค้าจะสามารถปรับปรุงผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สำหรับการจัดซื้อวัตถุดิบ พร้อมทั้งลดพื้นที่ การใช้พลังงาน และการระบายความร้อนในดาต้าเซ็นเตอร์
- การปกป้องข้อมูลภายใน—ลูกค้าจะสามารถปรับใช้ฟีเจอร์ด้านการสำรอง/กู้คืนข้อมูล และการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ซึ่งนับว่าจำเป็นอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกันซึ่งจะต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
“Data ONTAP ช่วยให้องค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นสตอเรจที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ และแพลตฟอร์มรุ่นล่าสุด Data ONTAP 8 ก็จะรองรับการพัฒนาอีกระดับขั้น ด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นใน การปรับขนาด ประสิทธิภาพ สมรรถนะ และฟีเจอร์อื่นๆ ที่สำคัญอย่างมากต่อระบบคลาวด์” มร.เทอร์รี่ แมคเคลอร์ นักวิเคราะห์ของ Enterprise Strategy Group กล่าว “ด้วยการผสานรวมรากฐานทางด้านเทคโนโลยีนี้เข้ากับเครื่องมือที่รองรับระบบคลาวด์ของพันธมิตร ทำให้เน็ตแอพกลายเป็นผู้จัดหาโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจบนระบบคลาวด์ได้อย่างแท้จริง”
ผลิตภัณฑ์ใหม่ โซลูชั่น และบริการรองรับระบบคลาวด์
ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการต่อไปนี้ตอบสนองความต้องการสำคัญๆ ของลูกค้าสำหรับระบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพเหนือกว่า:
- NetApp Data Motion™—เทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายข้อมูลของเน็ตแอพช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถย้ายข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องบนระบบสตอเรจหลายๆ ระบบ ในขณะที่แอพพลิเคชั่นยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ลูกค้าสามารถขจัดผลกระทบของการหยุดระบบเพื่อรองรับการบำรุงรักษาตามที่วางแผนไว้ในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่มีผู้ใช้หลายกลุ่ม NetApp Data Motion นับเป็นโซลูชั่นแรกสำหรับอุตสาหกรรมสตอเรจ ซึ่งถูกสร้างบนสถาปัตยกรรมสตอเรจแบบครบวงจรของเน็ตแอพเพื่อปรับปรุงความพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบคลาวด์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- Performance Acceleration Module II—Performance Acceleration Module รุ่นที่สอง ซึ่งเป็นโมดูลการแคชข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีแฟลช นับเป็นการใช้เทคโนโลยีแฟลช/SSD ในรูปแบบที่แปลกใหม่ แทนที่จะใช้ SSD ในชั้นวางดิสก์ ลูกค้าจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพบนชุดเวิร์กโหลดที่หลากหลายมากขึ้นโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และไม่สร้างแรงกดดันต่อโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ การทดสอบที่ดำเนินการโดยเน็ตแอพ โดยใช้เวิร์กโหลด Online Transaction Processing (OLTP) แสดงให้เห็นว่าลูกค้าสามารถเพิ่มอัตรา I/O ได้ประมาณ 78% และเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองได้ประมาณ 30% การเพิ่มประสิทธิภาพนี้ใช้พลังงานเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% และไม่ต้องใช้พื้นที่แร็คเพิ่มเติมแต่อย่างใด
- NetApp Dynamic Data Center (NDDC)—โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์แบบไดนามิกของเน็ตแอพประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นที่มีเสถียรภาพและผ่านการทดสอบสำหรับการนำเสนอ ITaaS องค์ประกอบแรกคือโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นบริการ (Service-Oriented Infrastructure - SOI) ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสตอเรจชั้นนำของเน็ตแอพ สถาปัตยกรรมมาตรฐานนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตั้งและใช้งานทรัพยากรด้านสตอเรจ เครือข่าย และการประมวลผลได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มระดับการให้บริการ เน็ตแอพจัดหาทรัพยากรที่ใช้งานร่วมกันเหล่านี้ผ่านทางแคตตาล็อกบริการ เพื่อนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานในรูปแบบของบริการ (Infrastructure as a Service - IaaS) ให้แก่ผู้ใช้ องค์ประกอบที่สองคือ กรอบโครงสร้างการจัดการบริการ (Service Management Framework) ซึ่งจัดหากระบวนการและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อช่วยจัดการโครงสร้างพื้นฐานและลดค่าใช้จ่ายคงที่ในกรณีที่เป็นไปได้ องค์ประกอบสุดท้ายคือ วิธีการนำเสนอ (Delivery Methodology) ซึ่งใช้ประโยชน์จากบริการระดับผู้เชี่ยวชาญของเน็ตแอป และพันธมิตรผู้ติดตั้งระบบของเน็ตแอพ เพื่อปรับใช้โครงสร้างพื้นฐาน ITaaS อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อลูกค้าน้อยที่สุด
- NetApp Fast-Start Customer Workshop—ปัจจุบัน เน็ตแอพจัดเวิร์คชอปให้คำปรึกษา 2-4 วัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแผนงานสำหรับการปรับใช้โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์แบบไดนามิกของ เน็ตแอพ โดยเวิร์คชอปดังกล่าวได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อประเมินความต้องการทางด้านธุรกิจ ในปัจจุบันของลูกค้า ระบุโครงการที่จำเป็นสำหรับการตอบสนองความต้องการดังกล่าว แล้วช่วยให้ลูกค้าดำเนินแผนงานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวสูงสุดและประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และบริการตามที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว เน็ตแอพยังได้เปิดตัวดิสก์เชลฟ์ (Disk Shelf) รุ่น DS4243 ซึ่งเป็นระบบย่อยสำหรับดิสก์ SAS/SATA แบบอเนกประสงค์ที่ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ด้วยดีไซน์แบบประหยัดพื้นที่ของระบบย่อย (จัดเก็บข้อมูลได้ 24TB ในแบบ 4U) ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าองค์กรที่ติดตั้งระบบคลาวด์จึงสามารถใช้ทรัพยากรที่มีค่าในดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่าง มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“T-Systems ช่วยให้ลูกค้าองค์กรกว่า 170 รายทั่วโลกสามารถใช้บริการคลาวด์สำหรับแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ เช่น SAP® และ Microsoft® Exchange โดยอาศัยบริการ Dynamic Services ของบริษัท” มร.โอลาฟ เฮย์เด้น กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติงานด้านไอซีทีของ T-Systems กล่าว “บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งทำให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานบริการได้ถึง 90% ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าของบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงระดับบริการได้อย่างเหมาะสม ที่จริงแล้วลูกค้าของเราสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30% เมื่อใช้บริการ Dynamic Services เมื่อเทียบกับการโฮสต์ระบบภายในองค์กร ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าของบริษัทยังได้รับประโยชน์จากการปกป้องข้อมูลอย่างครบวงจรและการรองรับผู้ใช้หลายกลุ่มอย่างปลอดภัย ในขณะที่บริษัทก็สามารถปรับเพิ่มและลดทรัพยากรไอทีได้อย่างยืดหยุ่นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ เน็ตแอพเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เราได้รับประโยชน์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของบริษัท”
“องค์กรต่างๆ หันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลไลซ์กันมากขึ้น เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้งทางด้านธุรกิจ และไอที เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่น การเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนอง และการลดค่าใช้จ่าย” มร.มานิช โกเอล รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติงานด้านผลิตภัณฑ์สำหรับเน็ตแอพ กล่าว “แพลตฟอร์มสตอเรจ Data ONTAP ของเน็ตแอพมีความสามารถที่โดดเด่น ช่วยให้ลูกค้าองค์กรบรรลุเป้าหมายทางด้านโครงสร้างพื้นฐานตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา และการเปิดตัว Data ONTAP 8 ในวันนี้ตอกย้ำความแข็งแกร่งของเน็ตแอพ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการนำเสนอไอทีในรูปแบบของบริการในอนาคต”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น